สุขภาพ

วิตามินซี

วิตามินซี

          วิตามินซี (Vitamin C) หรือมีชื่อเรียกว่า กรดแอสคอบิค (Ascobic Acid) เป็นวิตามินที่มนุษย์ไม่สามารถสร้างเองได้ ดังนั้นจึงเป็นวิตามินที่ร่างกายมนุษย์ต้องการเช่น เพื่อนำไปสร้างคอลลาเจนซึ่งคอลลาเจนมีประโยชน์ต่อสุขภาพต่างๆทั้งต่อกระดูก ฟัน ผิวหนังและยังมีประโยชน์อื่นๆอีกมากมาย วิตามินซีพบได้มากในผักและผลไม้เช่น ส้ม มะนาว สตรอว์เบอร์รี่เป็นต้น ประโยชน์ของ วิตามินซี ตามที่เราทราบกันดีอยู่แล้วว่าวิตามินซี (Vitamin C) นั้นมีประโยชน์ในรูปแบบต่างๆมากมายในเรื่องสุขภาพและสมรรถภาพทางกายต่างๆทั้งภายในและภายนอก ดังนั้นเราจะมายกตัวอย่างประโยชน์ของวิตามินซีมาเป็นข้อๆดังนี้ เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยป้องกันโรคต้อกระจกและป้องกันเลนส์สายตาจากอันตรายต่างๆเช่น ควันบุหรี่เป็นต้น บรรเทาความรุนแรงและลดระยะเวลาการเป็นหวัดได้ ทำให้แผลหายได้เร็วขึ้น บรรเทาอาหารแพ้หรือคุณสมบัติต่อต้านอาการภูมิแพ้ต่างๆ ฯลฯ วิตามินซี ควรทานตอนไหน ควรทานวิตามินซีพร้อมอาหารมื้อเช้าและอาหารมื้อเย็น ส่วนปริมาณการทานเพื่อช่วยเรื่องภูมิต้านทานร่างกายหรือบำรุงผิวพรรณควรทานวิตามินซีวันละ 1,000 มิลลิกรัม แต่ถ้าสำหรับคนที่เป็นหวัดหรือภูมิแพ้บ่อยๆก็ควรทานวันละ 2,000 มิลลิกรัมหรือมากกว่า ถ้าผู้ทานเมื่อทานไปแล้วมีอาหารท้องเสียหรืออื่นๆ อาจเป็นสัญญาณการรับวิตามินซีมากเกินไป ดังนั้นต้องการรับวิตามินซีในปริมาณที่มากหรือมีอาการผิดปกติก็ควรที่จะปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญ ไม่ว่าจะทานผลิตภัณฑ์อาหารเสริมหรืออาหารหลักที่ได้จากธรรมชาติก็ควรทานในปริมาณที่เหมาะสมไม่มากจนเกินไปและไม่ควรปล่อยไว้จนร่างกายนั้นขาดสารอาหาร อีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญมากนั้นก็คือพี่ๆเพื่อนๆทุกคนต้องดื่มน้ำในปริมาณที่เหมาะสมและเพียงพอต่อการใช้งานของร่างกายด้วย แนะนำบทความเพิ่มเติม สมรรถภาพทางกาย ดื่มน้ำวันละกี่ลิตร ?? สุขภาพ …

วิตามินซี Read More »

ดื่มน้ำ

ดื่มน้ำวันละกี่ลิตร ??

หลายๆคนรู้อยู่แล้วว่าการดื่มน้ำนั้นเป็นอะไรที่สำคัญและมีผลโดยรวมต่อสุขภาพอย่างชัดเจน ด้วยร่างกายคนเรานั้นมีของเหลวเป็นองค์ประกอบถึง 40-60 เปอร์เซ็นต์และน้ำดื่มหรือน้ำเปล่าที่เราดื่มเข้าไปก็เป็นส่วนช่วยในกระบวนการการทำงานของร่างกายในระบบต่างๆให้มีประสิทธิภาพและมีความสมดุลของร่างกายมากยิ่งขึ้น ประโยชน์ของการ ดื่มน้ำ ตามที่บอกว่าน้ำมีประโยชน์และเป็นปัจจัยสำคัญต่อกระบวนการการทำงานของร่าางกาย ดังนั้นผมจะยกตัวอย่างประโยชน์ของน้ำมาดังนี้ เป็นตัวกลางในการนำสารอาหารและออกซิเจนไปสู่เซลล์ต่างๆในร่างกาย ล้างสารพิษออกจากอวัยวะในร่างกาย บำรุงสุขภาพผิวพรรณ ควบคุมและปรับอุณหภูมิของร่างกาย เพิ่มอัตราการเผาผลาญพลังงาน ควบคุมความเข้มข้นของเลือด ป้องกันอาการท้องผูก ฯลฯ ดื่มน้ำ วันละกี่ลิตร ในทุกๆวันร่างกายจะสูญเสียน้ำในรูปแบบของกระบวนการของร่างกายหรือกิจกรรมทางกายต่างๆเช่น การปัสสาวะ , สูญเสียเหงื่อจากกิจกรรมทางกายและอื่นๆอีกเพียบดังนั้นเราจึงควรดื่มน้ำมาทดแทนในส่วนที่สูญเสียไป คำถามคือเราควรดื่มน้ำวันละกี่ลิตรล่ะ !!! จากที่ทราบกันผ่านสื่อต่างๆก็คือควรดื่มน้ำวันละ 8 แก้วแต่มันจะพอหรือเปล่านั้นเพราะแต่ละคนมีกิจกรรมทางกายไม่เท่ากัน แต่ด้วยทุกวันนี้เทคโนโลยีที่เข้าถึงง่ายพี่ๆเพื่อนๆทุกคนคงเห็นสูตรการดื่มน้ำมากมายบางสูตรจำยาก บางสูตรจำง่าย บางสูตรแบ่งเป็นช่วงอายุและในบทความนี้ผมจะให้สูตรการคำนวณแบบจำง่ายๆคือ สูตรการคำนวณปริมาณน้ำที่ควรดื่มขึ้นต่ำต่อวัน น้ำหนักตัว (กก.) X 40 = ปริมาณน้ำที่ควรดื่มขึ้นต่ำต่อวัน (มิลลิลิตร) ปริมาณน้ำที่คำนวณออกมานั้นรวมถึงน้ำหรือของเหลวที่ได้รับจากอาหารชนิดต่างๆด้วย เช่น แกง , ผลไม้เป็นต้น สำหรับคนที่ออกกำลังกาย มีกิจกรรมทางกายหนัก อยู่ในสภาพอากาศที่ร้อนหรืออื่นๆก็ควรดื่มน้ำให้มากกว่าที่คำนวณออกมา ควรดื่มน้ำช่วงเวลาไหน หลายคนถึงขั้นกับกำหนดเลยว่าต้องดดื่มน้ำเวลานี้เท่านี้ปริมาณนี้เท่านั้น จริงๆแล้วการทำแบบตัวอย่างดังกล่าวก็ไม่ใช่เรื่องที่ผิดทั้งหมดอยู่กับความเหมาะสมของแต่ละคนและช่วงเวลาการใช้ชีวิตตามกิจกรรมทางกายของแต่ละคน ในหหัวข้อนี้ผมจะขอพูดและบอกโดยรวมเลยว่า “ควรดื่มน้ำหรือจิบน้ำเวลาไหนก็ได้” แต่ที่ขาดไม่ได้เลยก็คือหลังจากตื่นนอนมาต้องดื่มน้ำเพื่อช่วยให้ระบบต่างๆของร่างกายมีความพร้อมในการใช้งาน และระหว่างวันก็ควรจิบน้ำเรื่อยๆไม่ควรดื่มทีละปริมาณมากๆ แต่ทั้งหมดก็ขึ้นความเหมาะสมตามกิจกรรมการใช้ชีวิตและสถานการณ์เช่น ถ้าดื่มน้ำจัดเต็มก่อนขึ้นรถเมล์แต่เจอรถติดหนักแล้วปวดฉี่ขึ้นมาจะงานเข้าเอานะจ๊ะ …

ดื่มน้ำวันละกี่ลิตร ?? Read More »

สมรรถภาพทางกาย

สมรรถภาพทางกาย

          บทความนี้น่าจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งกับกลุ่มคนที่สนใจจะดูแลและอยากทำความเข้าใจในเรื่องของสุขภาพรวมถึงกิจกรรมทางกายการใช้ชีวิตประจำวันหรือการคิดโปรแกรมการออกกำลังกายนั้นล้วนแต่ต้องมีความรู้และความเข้าใจพื้นฐานของสมรรถภาพทางกายก่อนว่าสมรรถภาพทางกายหรือทางกลไกนั้นประกอบไปดด้วยอะไรบ่างแล้วนำความรู้เหล่านี้ที่ได้ไปปรับใช้กับการออกแบบตารางการฝึกหรือการพัฒนากิจกรรมทางกายในชีวิตประจำวันได้ จริงๆแล้วคำว่าสมรรถภาพทางกายและสมรรถภาพทางกลไกนั้นความหมายค่อนข้างจะละเอียดและเข้าใจยากแต่ผมจะพยายามอธิบายความหมายเบื่องต้นแบบสั้นให้เข้าใจง่ายๆเพื่อนำไปต่อยอดกับความรู้อื่นๆดังนี้ สมรรถภาพทางกายหมายถึง           สมรรถภาพทางกาย (Physical Fitness) คือความสามารถของระบบต่างๆของร่างกายในการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล บุคคลที่มีสมรรถภาพทางกายที่ดีนั้นจะสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างกระฉับกระเฉงโดยไม่เหนื่อยล้าจนเกินไปและยังมีพลังงานสำรองมากพอสำหรับกิจกรรมนันทนาการหรือกรณีฉุกเฉินต่างๆ สมรรถภาพทางกายเพื่อสุขภาพ (Health – Related Physical Fitness) องค์ประกอบของร่างกาย (Body Composition) ในร่างกายของมนุษย์จะประกอบไปด้วยกล้ามเนื้อ กระดูก ไขมันและอื่นๆอีกมากมาย ความอดทนของระบบไหลเวียนโลหิต (Cardio Respiratory Endurance) สมรรถนะของระบบไหลเวียนเลือดและระบบหายใจในการลำเลียงออกซิเจนไปยังเซลล์กล้ามเนื้อทำให้ร่างกายสามารถยืนหยัดที่จะทำงานหรือออกกำลังกายที่ใช้กล้ามเนื้อมัดใหญ่เป็นระยะยาวนานได้ ความอ่อนตัว (Flexibility) คือการเคลื่อนไหวสูงสุดเท่าที่ทำได้ของกล้ามเนื้อ ข้อกลุ่มหรือกลุ่มข้อต่อ ความอดทนของกล้ามเนื้อ (Muscular Endurance) ความสามารถของกล้ามเนื้อมัดใดมัดหนึ่งหรือกลุ่มกล้ามเนื้อในการหดตัวซ้ำๆ หรือความสามารถในการคงสภาพการหดตัวครั้งเดียวได้เป็นระยะเวลาที่ยาวนาน ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ (Muscular Strength) คือปริมาณสูงสุดของแรงที่กล้ามเนื้อสามารถออกแรงต้านได้ในช่วงการหดตัว 1 ครั้ง สมรรถภาพทางกลไก (Mortor Fitness) หรือ สมรรถภาพเชิงทักษะปฏิบัติ …

สมรรถภาพทางกาย Read More »